Skip to content

อะไรเอ่ย ที่คุณไม่ควรทิ้งไว้ในรถยนต์ ?

อะไรเอ่ย ที่คุณไม่ควรทิ้งไว้ในรถยนต์ ?

อะไรเอ่ย ที่คุณไม่ควรทิ้งไว้ในรถยนต์ ?

เชื่อเลยว่าสาวๆ หนุ่มๆ ทั้งหลายต้องมีเผลอ มีลืมทิ้งสิ่งของเหล่านี้ไว้บนรถยนต์บ้างแหละ ซึ่งเราขอบอกเลยว่า ห้ามแม้แต่จะคิดที่จะลืมและทิ้งสิ่งของเหล่านี้ไว้บนรถยนต์เด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายขึ้นมาได้ แต่สิ่งของที่คุณไม่ควรลืมหรือทิ้งไว้บนรถยนต์เด็ดขาดจะมีสิ่งของประเภทใดบ้างนั้น ต้องตามมาดูกันเลย

อะไรเอ่ย ที่คุณไม่ควรทิ้งไว้ในรถยนต์ ?

  • สิ่งที่ไม่ควรทิ้งไว้ในรถ คือ โทรศัพท์มือถือและแบตเตอรี่สำรอง หากเราลืมวางโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ในรถแล้วล่ะก็ สิ่งที่อาจเกิดขึ้นก็คือวงจรภายในโทรศัพท์ได้รับความเสียหายจากความร้อนโดยเฉพาะหากเปิดใช้งานทิ้งไว้ จะยิ่งทำให้ความร้อนสูงขึ้น เสี่ยงต่อแบตเตอรี่ระเบิดได้ สำหรับแบตเตอรี่สำรอง หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าพาวเวอร์แบงก์นั้น มีสารลิเธียมซึ่งเป็นโลหะที่ไวต่อปฏิกิริยาทางเคมีอยู่ เมื่อได้รับความร้อน อาจทำให้เกิดการลัดวงจร มีโอกาสที่จะเกิดการระเบิดได้ ทั้งนี้รวมถึงอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ เช่น แท๊บเล็ต คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คด้วยเช่นกัน
  • สิ่งที่ไม่ควรทิ้งไว้ในรถ คือ ยาและครีมกันแดด ซึ่งการเก็บยาไว้ในรถนั้นจะทำให้ตัวยาเสื่อมคุณภาพเร็ว ไม่ได้ผลในการรักษา นอกจากนี้ยังอาจเป็นอันตรายต่อตัวผู้ใช้เองด้วย เพราะในขณะที่อุณหภูมิห้องปกติอยู่ที่ 25-30 องศาเซลเซียส แต่อุณหภูมิในห้องโดยสารของรถยนต์นั้นอาจสูงมากกว่า 40 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะเมื่อรถจอดตากแดดด้วยแล้ว อาจทำให้ยาบางชนิดถึงกับหลอมละลายได้เลย นอกจากนี้ยาบางชนิดยังต้องเก็บให้พ้นแสงและบรรจุอยู่ในขวดหรือซองสีชา เช่น วิตามินเอ, วิตามินบี 6, ยาคุมกำเนิด, ยาฮอร์โมน หรือยาปฏิชีวนะ การวางไว้ในที่แสงจ้าอย่างรถตากแดดก็อาจทำให้เสื่อมคุณภาพเร็วได้ นอกจากยาแล้ว ครีมกันแดดดหรือครีมบำรุงผิวอื่นๆ ก็ไม่ควรวางไว้ในรถเพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของครีมลดลงได้เหมือนกัน
  • สิ่งที่ไม่ควรทิ้งไว้ในรถ คือ แว่นตาและแว่นกันแดด อย่างที่ได้บอกไปในข้างต้นแล้วว่าอุณหภูมิในรถจะสูงกว่าปกติ ดังนั้น หากเป็นไปได้ควรนำแว่นตาออกมาจากรถด้วย ไม่ควรเก็บในรถ เพราะเลนส์แว่นตาอาจเสื่อม หรือละลายได้ แต่หากไม่มีที่เก็บจริงๆ ก็ควรวางไว้ในที่เก็บของให้ห่างจากที่ๆ แสงแดดจะส่องถึง

ทั้งนี้ การประมาทเลินเล่อก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะคาดรู้ได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย คุณจึงควรทำประกันรถยนต์เอาไว้ ซึ่งราคาประกันรถยนต์จะแตกต่างกันออกไป อาทิ ราคาประกันรถยนต์จะเปลี่ยนไปตามความคุ้มครอง หรือราคาประกันรถยนต์จะเปลี่ยนไปตามชื่อเสียงของบริษัทประกัน เป็นต้น